วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

เทคนิคง่ายนำไปใช้ได้เลย!!


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เทคนิค การ เล่น a mathให้ชนะ












เทคนิคการเล่นเอเเม็ท
การเปิดเกม
    การเปิดเกมเป็นการเริ่มเกมที่ต้องคิดเป็นพิเศษเพราะมันมีผลกับสภาพจิตใจ
ของนักกีฬาคือ ถ้าเปิดเกมดีเช่นการทำบิงโกก็จะทำให้นักกีฬา
มีความมั่นใจในการเล่นตต่อไป 

-ในกรณีที่เปิดเกมโดยทำบิงโก
    การทำบิงโกเปิดเกมนอกจากจะเป็นสมการที่ถูกต้องแล้ว
 การจัดรูปแบบของสมการก็มีส่วนสำคัญเช่นกันทั้ง
เพื่อให้ได้คะแนนมากที่สุดแล้วยังเป็นการกันลดโอกาศของคู่ต่อสู้
ในการทำคะแนนอีกด้วย 
คือ จุดตรงกลางกระดาน(คูณสาม)ควรจะใช้ตัวเลขที่มีแต้มหนัก
มากที่สุดใน rank และจุดนี้สำคัญมากจุดที่ห้านับจากจุดกึ่งกลาง(คูณสอง
)เพื่อที่จะทำให้คู่ต่อสู้ลงบิงโกคูณสี่ได้ยากควรใช้เครื่องหมาย บวก ลบ คูณ หาร
 หรือเครื่องหมายเท่ากับในการลงในช่องนั้น
 เพระการที่มีเครื่องหมายอยู่ตรงกลางแล้วการทำบิงโกคูณสี่
จำเป็นจะต้องผมเลขโดดสองหลักหรือใช้การติบลบซึ่งจะทำให้
คู่ต่อสู้มีโอกาศลงบิงโกคูณสี่น้อยลงนั่นเอง

-ในกรณีที่เปิดเกมแล้วลงไม่หมด
   ไม่ควรลงสมการที่ใช้ตัวเบี้ยเจ็ดตัวเพราะจะทำให้ลดช่องว่าของการะดาน
แถวนั้นให้เหลือแปดช่องซึ่งอาจจะทำให้คู่ต่อสู้ทำบิงโกคูณเก้าซึ่ง
มันเป็นคะแนนที่มากมากพอที่อาจจะทำให้เราถอดใจ หรืออาจจะตามไม่ทัน

การเล่นกลางเกม
   การเล่นกลางเกมเป็นการวัดความสามารถกันของผู้เล่น
ทั้งสองฝ่ายว่าใครจะเหนือกว่ากัน
โดยที่มีเรื่องของโชคชะตามาเกี่ยวข้อง

-ในกรณีที่โดนนำ
   ถ้าโดนนำไม่มากก็ควรที่จะเล่นตามแบบแผนตามถนัดของตัวเอง
ไปก่อนหาโอกาศที่จะพลิกนำให้ได้โดยการลงสมการที่ไม่เกะกะเพื่อ
ที่ตาต่อไปจะเล่นได้ง่าย(ถ้าคู่ต่อสู้ไม่ลงตัดก่อน)มีสติอยู่กับเกมให้มากๆ
 ที่สำคัญคือเรื่องของสภาพจิตใจไม่ว่าจะโดนนำเท่าไหร่อย่าถอดใจเด็ดขาด
  ถ้าโดนนำมากๆ ก็ควรจะลงสมการเปิด เช่น เปิดคูณเก้า เปิดคูณสี่
 เพื่อเพิ่มโอกาศในการทำคะแนนให้ได้มากๆแต่ถ้าคู่ต่อสู้ลง
ได้ก็จะทำให้แต้มห่างกันมากเกินไปจนทำให้เราแพ้ได้
 แต่ถ้าไม่ลงสมการที่เปิด เราก็อจจะแพ้อยู่ดี (แล้วแต่ดุลพินิขของแต่ละคน)

-ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายนำ
    ถ้านำไม่มากก็อย่าพึ่งชล่าใจเด็ดขาดตรงนี้สำคัญมาก
ควรจะลงสมการที่ปิดโอกาศของคู่ต่อสู้ให้ได้มากที่สุดและได้คะแนน
ที่อยูในเกณฑ์ที่พอใจของเราบางสมการเช่น การลงคูณสามแล้วคู่ต่อสู้สามารถ
ลงต่อสมการของเราได้ มันทำให้เราได้คะแนนมากก็จริง
แต่ถ้าคู่ต่อสู้ลงต่อจากเราแล้วคูนสามได้คู่ต่อสู้จะได้คะแนนมากกว่าเราอีก 
ดังนั้นควรที่จะลงสมการที่เกะกะเพื่อให้คู่ต่อสู้ที่ตามเล่นได้ยากที่สุด

การเล่นท้ายเกม
หลายๆคนแพ้เพราะวางแผนไม่ดีบ้าง เช็คตัวเบี้ยพลาดบ้าง 
 เนื่องจากการเล่นท้ายเกมเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดจึงต้อง
ว่างแผนอย่างดีและคิดอย่างรอบคอบการตัดตัวเบี้ยจึงมีส่วน
สำคัญอย่างมากเพราะจะทำให้เรามองออกว่าเหลือตัวเบี้ยอะไรบ้าง
และควรทำยังไงต่อในตาเล่นนั้นๆ 
พยายามอย่าเป็นคนครอบครองตัวเบี้ยตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ในถุง
เพราะถ้าตัวเบี้ยหมดถุงแล้วคนที่สามารถลงเบี้ยให้หมดrank
 แล้วจะได้คะแนนจากเบี้ยของคู่ต่อสู้คูณด้วยสองอย่างฟรีๆเลย

คำบอกกล่าวจากความสำเร็จ




แชมป์เปี้ยน A-MATH แห่งประเทศไทยคนล่าสุด


ในแวดวงเอแม็ท คงไม่มีใครไม่รู้จักกับผู้ชายคนนี้ “เสถียรพงษ์ ศรีลำภูทอง” 
ผู้ซึ่งพิชิตการแข่งขันเอแม็ทมาแล้ว
นับไม่ถ้วน และล่าสุดกับการแข่งขัน

 “เถ้าแก่น้อย เอแม็ท ชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งที่ 6”

 แบนนี้คงต้องขอล้วงลึกไปกับชีวิตของชายหนุ่มผู้นี้
 “เสถียรพงษ์ ศรีลำภูทอง”กับคอลัมน์นี้เลยครับ
MAN OF THE MATCH

MAN OF THE MATH : เริ่มรู้จักและสัมผัสกับกีฬาเอแม็ทครั้งแรกเมื่อไร

เสถียรพงษ์ : สมัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่เลยครับ 
ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ช่วงที่เรียนอยู่

ในห้องคุณครูวิชาคณิตศาสตร์ในตอนนั้นเห็นเราชอบเลข
 แล้วก็คิดเลขเร็วดี 

จึงชวนมาทำกิจกรรมชมรมเกี่ยวกับทางด้านคณิตศาสตร์หลายอย่าง
 เช่น เล่มเกม 180 ไอคิว


 หลายเกมเลยนะครับ แต่ผมจำไม่ค่อยได้แล้วละ นานมากแล้วครับ 
แล้วก็ได้มาพบกับเกมเอแม็ทครับ

MAN OF THE MATH : ประโยชน์ของเอแม็ทในความคิดของคุณคืออะไร
เสถียรพงษ์ : ได้ฝึกฝนทักษะทางด้านคณิตศาสตร์
 ทำให้สนุกกับวิชาคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น
 เพิ่มกระบวนการทางการคิดในเรื่องของตรรกะ 
ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น
 อีกทั้งยังทำให้ได้พบเพื่อนใหม่ ได้รู้จักพี่ๆ น้อง ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วยครับ

MAN OF THE MATH : ความรู้สึกในแต่ละครั้งเมื่อได้สัมผัสแชมป์เป็นอย่างไรบ้าง
เสถียรพงษ์ : ก็ปลื้มใจนะครับ รู้สึกว่าถ้าเราพยายามเราก็ต้องทำสำเร็จ

MAN OF THE MATH : ถ้าอยากเล่นเอแม็ทให้เก่งกาจต้องทำอย่างไรบ้าง
เสถียรพงษ์ : เรื่องคิดเลขเร็วมีส่วนมากนะครับ 
ต้องฝึกฝนการคิดเลขให้เร็วและแม่นยำ
 เพราะในการแข่งขันเค้าจะมีเวลาจำกัดให้สำหรับการเล่น 1 เกม
 ถ้าอยากเก่งกาจก็ต้องพยายามหมั่นฝึกซ้อม
 เราจะได้รับเทคนิคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในการเล่นเกม
ที่เพิ่มมากขึ้นทุกๆ เกม แล้วเรื่องสมาธิ ความรอบคอบก็มีส่วนอย่างมาก
ในการวางแผนในการเล่นกับคู่ต่อสู้

MAN OF THE MATH : สุดท้ายแล้วจะมีอะไรฝากถึงพี่ๆน้องๆที่สนใจกับกีฬาเอแม็ทบ้าง
เสถียรพงษ์ : น้องๆ คนไหนที่สนใจก็มาลองเล่นดูได้นะครับ 
เอแม็ทไม่ได้เป็นเกมที่เล่นยากเลย
 ถ้าเราเอาใจใส่ มุ่งมั่นและตั้งใจฝึกซ้อม
 ทุกคนก็จะสามารถเล่นเอแม็ทได้เยี่ยมยอดครับ

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2561

รูปแบบการจัดการเเข่งขันเเบบสวิสแพริ่ง

 (Swiss Pairing) เป็นระบบการประกบคู่แข่งขันสากลที่มักใช้ในการแข่งขัน scrabble หรือที่เราเรียกว่าครอสเวิร์ด รวมถึงพวกเกมกระดานประเภทต่างๆด้วย ดังนั้นคำคมและเอแม็ทก็เลยใช้ระบบการประกบคู่แข่งขันแบบนี้ด้วย ซึ่งเป็นการประกบคู่แข่งโดยยึดผลคะแนนเป็นหลัก (ซึ่งก็จะดูที่เกมชนะก่อนเป็นลำดับแรก หากจำนวนเกมที่ชนะเท่ากัน ถึงจะดูที่คะแนนผลต่างสะสม) โดยให้ผู้เข้าแข่งขันที่มีฝีมือใกล้เคียงกันเจอกัน ปัจจุบันในการแข่งของสมาคมฯ มีการนำระบบแพริ่งแบบ King of the hill มาใช้ในเกมท้ายๆของรอบคัดเลือก โดยประกบคู่เรียงตามลำดับคะแนนไปเรื่อยๆ ส่วน Gibsonize หรือกฎกิ๊บสัน (เรียกสั้นๆว่ากิ๊บ) จะใช้ในกรณีที่มีผู้เข้าแข่งขันทีมใดทีมหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่งได้เข้าไปชิงชนะเลิศแล้ว 100% ถึงแม้ว่าในเกมที่เหลือจะแพ้แบบ Maximum ก็ตาม พูดง่ายๆคือไม่หลุดจาก 2 อันดับแรกที่จะเข้าชิงฯ (ไม่หลุดไปอยู่ที่ 3 หรืออันดับต่ำกว่านี้) ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เล่นที่ได้กิ๊บ ไม่ต้องแข่งขันในเกมที่เหลือ ไปนั่งเกาตูดรอทีมที่จะเข้ามาชิงกับตัวเองได้เลย ซึ่งเกมที่เหลือนี้ก็จะถือว่าได้ชนะบาย (ได้ผลต่างคะแนนหรือดิฟตามเกณฑ์ชนะบายในรุ่นนั้นๆ) หรืออาจต้องไปแข่งกับทีมที่มีคะแนนลำดับสุดท้ายหากทีมสุดท้ายไม่มีคู่แข่ง 

   

                                             

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561

อินเทอร์เน็ต

ที่มา

อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) จากการเกิดเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency NETwork) ซึ่งเป็นเครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยชั้นสูงของกระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการสร้างเครือข่ายคือ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ เครือข่าย ARPANET ถือเป็นเครือข่ายเริ่มแรก ซึ่งต่อมาได้พัฒนาให้เป็นเครือข่าย อินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน

การประยุกต์ใช้งานอินเทอร์เน็ต

การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันทำได้หลากหลาย อาทิ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (email), สนทนา (chat), อ่านหรือแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ด, การติดตามข่าวสาร, การสืบค้นข้อมูล / การค้นหาข้อมูล, การชม หรือซื้อสินค้าออนไลน์, การดาวโหลด เกม เพลง ไฟล์ข้อมูล ฯลฯ, การติดตามข้อมูล ภาพยนตร์ รายการบันเทิงต่าง ๆ ออนไลน์, การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์, การเรียนรู้ออนไลน์ (e-learning), การประชุมทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต (video conference), โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP), การอับโหลดข้อมูล หรืออื่น ๆ
แนวโน้มล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตคือการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพื่อสร้างเครือข่ายสังคม(Social Network) ซึ่งพบว่าปัจจุบันเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ทวิตเตอร์ ไฮไฟฟ์ และการใช้เริ่มมีการแพร่ขยายเข้าไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Internet) มากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันสนับสนุนให้การเข้าถึงเครือข่ายผ่านโทรศัพท์มือถือทำได้ง่ายขึ้นมาก

ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต

ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนเราหลายๆด้าน ทั้งด้านการศึกษา ด้านธุรกิจและพาณิชย์ ด้านการบันเทิง
-ด้านการศึกษา การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการสนับสนุนการศึกษา เป็นการใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารเพื่อการส่งการบ้าน นัดหมาย อธิบารายละเอียด รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคณาจารย์กับนักเรียน และนักเรียนกับนักเรียนด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีระบบการเรียนการสอนด้วยระบบออนไลน์ การเรียนออนไลน์ค่อนข้างเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการเรียนที่สะดวกสามารถเรียนได้ในเวลาที่ต้องการ อีกทั้งสามารถลดค่าเล่าเรียนลงไปได้อย่างมาก และทั้งนี้อินเทอร์เน็ตนั้นยังสามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูลเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่พร้อมทั้งมีข้อมูลที่ครอบคลุมมีทั้งภาพ เสียง และภาพเคลื่อนไหว
-ด้านธุรกิจและพาณิชย์ การใช้อินเทอร์เน็ตกับงานธุรกิจณิชย์นั้นช่วยให้สามารถตัดสินใจซื้อขายสินค้าและบริการได้อย่างรวดเร็วและสะดวก นับว่าเป็นตลาดที่กว้างขวางและมีประสิทธิภาพในการติดต่อซื้อสินค้าและบริการ เพราะคนเราสมัยนี้นิยมความสะดวกสบายและรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดบนโลกก็ตามก็สามารถเปิดเว็บไซต์เพื่อเลือกสินค้าหรือหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งปรึกษาก็ได้ฉับไว
-ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นแหล่งความบันเทิงในอีกรูปแบบหนึ่งเหมือนับการนั่งดูโทรทัศน์ ดูภาพยนตร์ อ่านหนังสือหรือบทความต่างๆ ซึ่งสามารถจะดูหรือใช้งานที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ อินเทอร์เน็ตต่อด้านบันเทิงนั้นถือว่าเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ สามารถค้นคว้าวารสารทั้งหนังสือพิมพ์ ข่าวสาร นิยาย วรรณกรรมและอื่นๆผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อีกทั้งสามารถฟังวิทยุออนไลน์ ดูรายการโทรทัศน์รวมทั้งภาพยนตร์ทั้งเก่าและใหม่มาดูได้อีกด้วย

ความสำคัญของอินเทอร์เน็ตกับงานสื่อสารมวลชน

ในปัจจุบันนี้อินเทอร์เน็ตมีอิทธิพลกับงานทุกสาขาอาชีพรวมทั้งงานสื่อสารมวลชนด้วย สำหรับงานสื่อสารมวลชนเป็นงานที่ต้องเน้นความรวดเร็วเป็นหลักให้ทันกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน เพราะข่าวสารนั้นมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา มิใช่มีประโยชน์เพียงแค่นี้ อีกทั้งยังยังสามารถใช้ในการติดต่อสื่อสาร การโฆษณาสินค้า การค้าขาย รวมทั้งการประชาสัมพันธ์
การสื่อสารโดยใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นการสื่อสารที่ไร้พรมแดน มีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในจำนวนมากได้เป็นเวลาอันรวดเร็วและใช้ต้นทุนต่ำ และอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นสื่อที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของสื่อมวลชนตามความต้องการดังกล่าว

จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก


หากเปรียบเทียบจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกับจำนวนประชากรรวม พบว่าทวีปอเมริกาเหนือมีสัดส่วนผู้ใช้ต่อประชากรสูงที่สุดคือ 78.3 % รองลงมาได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย 60.1 % และ ทวีปยุโรป คิดเป็น 58.3 % ตามลำดับ
ปัจจุบัน จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกโดยประมาณ 2.095 พันล้านคน หรือ 30.2 % ของประชากรทั่วโลก (ข้อมูล ณ เดือน มีนาคม 2554) โดยเมื่อเปรียบเทียบในทวีปต่าง ๆ พบว่าทวีปที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือ เอเชีย โดยคิดเป็น 44.0 % ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด และประเทศที่มีประชากรผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคือประเทศจีน คิดเป็นจำนวน 384 ล้านคน

อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยการเชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย แต่ในครั้งนั้นยังเป็นการ เชื่อมต่อโดยผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้ช้าและไม่เป็นการถาวร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC), มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าด้วยกันเรียกว่า "เครือข่ายไทยสาร"
การให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2538 โดยความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง คือ การสื่อสารแห่งประเทศไทย องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยให้บริการในนาม บริษัทอินเทอร์เน็ต ประเทศไทย (Internet Thailand) เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์รายแรกของประเทศไทย 

จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ ปี 2534 (30 คน) ปี 2535 (200 คน) ปี 2536 (8,000 คน) ปี 2537 (23,000 คน) ข้อมูลล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2551 จากจำนวนประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไปประมาณ 59.97 ล้านคน พบว่า มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ 16.99 ล้านคน คิดเป็น ร้อยละ 28.2 และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 10.96 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 18.2 

อินเทอร์เน็ตแบนด์วิท

ปัจจุบัน (สิงหาคม 2558) ประเทศไทยมีความกว้างช่องสัญญาณ (Internet bandwidth) ภายในประเทศ 2,768.895 Gbps และระหว่างประเทศ 1,954 Gbps 

เทคนิคง่ายนำไปใช้ได้เลย!!

เทคนิคการเล่นเอเเม็ท การเปิดเกม     การเปิดเกมเป็นการเริ่มเกมที่ต้องคิดเป็นพิเศษเพราะมันมีผลกับสภาพจิตใจ ขอ...